สรุปข่าวสำคัญประจำวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม 2565
1.**ทองคำพุ่งขึ้น $30.5 วิตกจีนซ้อมรบหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือนในวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวัน
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งมีการยิงขีปนาวุธตกลงในน่านน้ำญี่ปุ่น
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงว่า กองทัพจีนได้ยิงขีปนาวุธ 9 ลูกเมื่อวานนี้ และจำนวน 5 ลูกได้ตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น (EEZ) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จีนได้ยิงขีปนาวุธตกลงในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะฮาเตรูมะ
การยิงขีปนาวุธของจีนส่งผลให้รัฐบาลญี่ปุ่นดำเนินการประท้วงทางการทูตต่อรัฐบาลจีน และเรียกร้องให้จีนยุติการซ้อมรบใกล้เกาะไต้หวันโดยทันที
ทั้งนี้ จีนได้ยิงขีปนาวุธดังกล่าวในการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเพื่อตอบโต้ต่อการเดินทางเยือนกรุงไทเปของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ โดยการซ้อมรบจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 7 ส.ค.
2.**เพโลซี! เยือนญี่ปุ่นหลังจบทริปไต้หวัน ซึ่งอาจเป็นเหตุให้จีนฉุนยิงขีปนาวุธใส่เขตศก.ญี่ปุ่น?!
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีกำหนดพบปะกับเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นที่กรุงโตเกียวในวันนี้ (5 ส.ค.) หลังเสร็จสิ้นการเดินทางเยือนไต้หวัน โดยทางการจีนแสดงความไม่พอใจต่อการเดินทางเยือนดังกล่าว และตอบโต้ด้วยการซ้อมรบ รวมถึงการยิงขีปนาวุธจำนวน 5 ลูกตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) ของญี่ปุ่น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทริปเยือนไต้หวันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าของนางเพโลซีในช่วงเย็นวันที่ 2 ส.ค. ถึงช่วงเช้าวันที่ 3 ส.ค. เป็นการเดินทางเยือนเกาะไต้หวันของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของสหรัฐ รู้สึกกังวลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จากอิทธิพลของจีนที่แผ่ขยายออกไปภายในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และความเป็นไปได้ที่จีนจะใช้กำลังทหารต่อไต้หวัน
นอกจากนี้ญี่ปุ่นเตือนว่า การข่มขู่คุกคามไต้หวันของจีนเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงระดับชาติที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น ด้านพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ยังให้คำมั่นว่า จะเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารขึ้น 2 เท่า เป็น 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
3.*สหรัฐฯ ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ!
สหรัฐฯ ประกาศให้โรคฝีดาษลิง เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ หลังจากผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงกว่า 6,600 ราย
กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ แถลงในวันที่ 4 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิง หรือ Monkeypox เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่คาดว่า รัฐบาลกลางจะระดมทรัพยากรทั้งด้านงบประมาณและเครื่องมือต่าง ๆ ในการต่อสู้กับโรคร้ายนี้ โดยการประกาศดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงในประเทศพุ่งสูงต่อเนื่อง อยู่ที่กว่า 6,600 ราย ซึ่งผู้ป่วยเกือบทั้งหมดเป็นชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และการประกาศดังกล่าวยังเกิดขึ้นตามองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในระดับสูงสุดไปไม่ถึงสองสัปดาห์ หลังพบผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น
นับจากนี้ จะมีการเร่งแจกจ่ายวัคซีน, การรักษา และทรัพยากรจากส่วนกลางเพื่อหยุดยั้งการระบาดของไวรัส
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ป่วยฝีดาษลิงในสหรัฐฯ จำนวน 1 ใน 4 อยู่ในนิวยอร์ก ซึ่งก็ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนอีก 2 รัฐที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด คือแคลิฟอร์เนียและอิลลินอยส์ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปในช่วงต้นสัปดาห์นี้
ฮาเซียร์ เบเซอร์รา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ กล่าวแถลงข่าวว่า เราพร้อมที่จะยกระดับในการตอบโต้ขึ้นไปอีกขั้น เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของฝีดาษลิง และเรียกร้องให้ชาวอเมริกันทุกคนให้ความสำคัญกับโรคฝีดาษลิง
ส่วนโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือซีดีซี กล่าวว่า การประกาศดังกล่าวจะช่วยปรับปรุงความพร้อมของฐานข้อมูลโรคฝีดาษลิงด้วย
ในช่วงต้นเดือนนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากส่วนกลาง 2 คน ในการรับมือกับฝีดาษาลิง หลังมการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยรัฐแคลิฟอร์เนีย, อิลลินอยส์และนิวยอร์ก
รัฐบาลสหรัฐฯ แจกจ่ายวัคซีนฝีดาษลิงไปทั่วประเทศแล้ว 156,000 โดสจนถึงกลางเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ ยังได้สั่งซื้อวัคซีนของบริษัทบาวาเรียน นอร์ดิก เพิ่มอีก 2.5 แสนโดสด้วย
ข้อมูลอ้างอิง – infoquest / Reuters / Washington Post / TNN World
#MarketNews #ZFX #ZFXThailand #แนนซี #เพโลซี #Nancy #pelosi # Taiwan #China #Japan #vaccine